ดิฟเฟอเรนเชียลเกจ
(Differential Pressure Gauge): หัวใจสำคัญของการควบคุมแรงดันในห้อง Cleanroom และห้องควบคุมแรงดัน
ในอุตสาหกรรมที่ต้องการการควบคุมสภาพแวดล้อมอย่างเข้มงวด เช่น โรงพยาบาล ห้องปฏิบัติการ หรืออุตสาหกรรมยาและอิเล็กทรอนิกส์ ห้อง Cleanroom, ห้องแรงดันลบ (Negative Pressure Room) และ ห้องแรงดันบวก (Positive Pressure Room) มีบทบาทสำคัญในการป้องกันการปนเปื้อนและควบคุมการแพร่กระจายของเชื้อโรค แต่จะมั่นใจได้อย่างไรว่าห้องเหล่านี้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพตามที่ออกแบบไว้? คำตอบคือการใช้งาน ดิฟเฟอเรนเชียลเกจ (Differential Pressure Gauge) หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า DIFF GAUGE
ดิฟเฟอเรนเชียลเกจคืออะไร?
ดิฟเฟอเรนเชียลเกจ คืออุปกรณ์ที่ใช้วัดความแตกต่างของแรงดันอากาศระหว่างสองจุด ซึ่งในบริบทของห้องควบคุมแรงดัน จะเป็นการวัดความแตกต่างของแรงดันระหว่างภายในห้องกับภายนอกห้อง หรือระหว่างโซนต่างๆ ภายในอาคารเดียวกัน ค่าที่วัดได้จะแสดงเป็นหน่วยแรงดัน เช่น Pascal (Pa) หรือ Kilopascal (kPa) อย่างในตัวอย่างคือช่วง 0-4 KPA ซึ่งเหมาะสำหรับการวัดแรงดันที่ค่อนข้างต่ำและละเอียดอ่อน
ความสำคัญของดิฟเฟอเรนเชียลเกจในห้อง Cleanroom และห้องควบคุมแรงดัน
ห้อง Cleanroom: ห้อง Cleanroom ถูกออกแบบมาเพื่อควบคุมปริมาณอนุภาคในอากาศให้อยู่ในระดับที่กำหนด การรักษาแรงดันภายในห้องให้สูงกว่าภายนอกเล็กน้อย (แรงดันบวก) จะช่วยป้องกันไม่ให้อากาศที่ปนเปื้อนจากภายนอกไหลเข้าสู่ภายในห้อง ดิฟเฟอเรนเชียลเกจจึงเป็นเครื่องมือสำคัญในการตรวจสอบและยืนยันว่าแรงดันบวกนี้ถูกรักษาไว้อย่างสม่ำเสมอ
ห้องแรงดันลบ (Negative Pressure Room): ห้องประเภทนี้มักใช้ในโรงพยาบาลหรือห้องแยกโรค เพื่อกักเก็บเชื้อโรคหรือสารอันตรายไม่ให้ออกไปปนเปื้อนภายนอก การรักษาแรงดันภายในห้องให้ต่ำกว่าภายนอก (แรงดันลบ) จะทำให้อากาศจากภายนอกไหลเข้าสู่ภายในห้องเท่านั้น และอากาศภายในจะถูกดูดออกผ่านระบบกรองอากาศ ดิฟเฟอเรนเชียลเกจช่วยให้มั่นใจว่าแรงดันลบอยู่ในระดับที่เหมาะสมเพื่อความปลอดภัย
ห้องแรงดันบวก (Positive Pressure Room): ตรงข้ามกับห้องแรงดันลบ ห้องแรงดันบวกถูกใช้เพื่อป้องกันสิ่งปนเปื้อนจากภายนอกเข้าสู่พื้นที่ที่ต้องการความสะอาดสูง เช่น ห้องผ่าตัด หรือห้องเตรียมยาปลอดเชื้อ ดิฟเฟอเรนเชียลเกจจะแสดงค่าแรงดันที่สูงกว่าภายนอก เพื่อให้มั่นใจว่าอากาศบริสุทธิ์เท่านั้นที่ไหลเวียนอยู่ภายใน
